วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2563

ภาษาไทยกับวัยรุ่น


ภาษาไทยกับวัยรุ่น🌈

 คำว่า “ภาษา”  เป็นคําสันสกฤตที่มาจากรากศัพท์เดิมว่า ภาษ  เป็นคำกริยา แปลว่า กล่าว พูด หรือบอก เมื่อนำมาใช้จึงเปลี่ยนรูปเป็น “ภาษา”  ซึ่งมีความหมายตามรูปศัพท์ว่า คำพูด หรือ ถ้อยคำ เป็นสิ่งที่มีมนุษย์ใช้ทำความเข้าใจระหว่างคนกับคนเป็นวิธีที่มนุษย์ใช้แสดงความในใจ เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รู้ โดยใช้เสียงพูดที่มีระเบียบและมีความหมาย  พูดออกมาเพื่อสื่อความหมายให้เข้าใจตรงกัน อาจกล่าวโดยสรุปว่า ภาษา คือ เครื่องมือในการสื่อความหมายโดยผ่านทางเสียงพูด ถ้อยคำ กริยาอาการ หรือสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อใช้ถ่ายทอดความรู้สึก ความต้องการของตนให้ผู้อื่นทราบในการประกอบกิจการร่วมกัน (หมวดภาษาไทยมหาวิทยาศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตรฝ่ายมัธยม : ๒๕๕๑)
ภาษาเป็นสิ่งแสดงภูมิปัญญาอันยอดของมนุษย์ที่สามารถพัฒนาเสียงซึ่งเปล่งออกได้ด้วยอาการตามธรรมชาติ ให้กลายเป็นเครื่องมือใช้สื่อสารความคิด ความรู้สึก ความต้องการของตนให้ ผู้อื่นรู้และสื่อสารกันได้จนเกิดเป็นภาษา มนุษย์ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร และทำความเข้าใจกันในหมู่คณะที่ใช้ภาษาเดียวกัน ภาษาทำให้มนุษย์สามารถพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ ความรู้ความสามารถในการหาเลี้ยงชีพ และความสามารถอื่นๆ อีกมากมาย มนุษย์สามารถพัฒนาความรู้ ความคิด จิตใจ คุณธรรม ความเชื่อ ศิลปะ ฯลฯ จนแตกต่างจากสัตว์ทุกชนิดและเป็นผู้ครองโลกได้ด้วยภาษาของมนุษย์นี้เอง ภาษาจึงเป็นส่วนสำคัญของความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชนที่เจริญก้าวหน้าจนเป็นมหาอำนาจหรือกลุ่มชนที่ล้าหลังที่สุด ต่างก็มีภาษาใช้ สื่อสารกันในกลุ่มของตน และทุกภาษาจะมีความสมบรูณ์เพียงพอที่จะใช้สื่อสารกันได้ในกลุ่มเมื่อ มนุษย์ได้ติดต่อกับคนต่างกลุ่ม ติดต่อกับคนที่ใช้ภาษาต่างกันการหยิบยืมทางภาษาก็อาจเกิดขึ้น ได้ในทุกกลุ่มชน การยืมจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความต้องการของคนในสังคมนั้นๆ (กาญจนา   นาคสกุล,๒๕๔๕)
“ทกุสิ่งในโลกล้วนเป็นอนิจจัง”  วัฏจักรของชีวิตมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ภาษาก็มีวัฏจักรชีวิตเช่นเดียวกัน
ภาษามีเกิด คือ มีการสร้างคำใหม่
ภาษามีแก่ คือ คำที่คิดว่า เก๋เท่ในยุคหนึ่งก็กลับกลายเป็นคำที่ล้าสมัยในปัจจุบัน
ภาษามีเจ็บ คือ ความบกพร่องในการใช้ภาษา ต้องอาศัยการเยียวยา
ภาษามีการตาย คือ คำบางคำไม่มีการนำกลับมาใช้อีก  
ภาษาไทยเป็นขุมคลังแห่งภูมิปัญญาของคนไทยทั้งชาติเป็นเอกลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของอารยธรรมไทยที่โดดเด่นมาอย่างยาวนานแต่ทุกวันนี้ดูเหมือนภาษาไทยกำลังจะถูกลืมจากคนรุ่นใหม่ ดัชนีชี้วัดที่สำคัญประการหนึ่งก็คือผลสัมฤทธิ์ด้านการใช้ภาษาไทยของเด็กเยาวชน และนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ล้วนตกต่ำลงมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นการตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องจนน่าสังเกตเป็นพิเศษด้วยในรอบหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นแล้วการใช้ภาษาไทยที่ผิดๆก็มักให้เห็นอยู่อย่างมากมายทั้งในสื่อมวลชน ในเพลง ในละครโทรทัศน์  และในการแชทผ่านอินเทอร์เน็ต รวมทั้งในชีวิตประจำวันเราเองที่ไม่ค่อยจะให้ความสำคัญกับการเขียน การพูด การสื่อสารให้ถูกต้อง รวมทั้งไม่มีค่านิยมในการศึกษาหาความรู้ที่ถูกต้องด้วย   (พระมหาวุฒิชัย  วชิรเมธี  : ๒๕๕๔)
ภาษาไทยเป็นรูปแบบการสื่อสารที่สำคัญของคนไทย การใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถสื่อสารบอกความต้องการ ความรู้สึกของเราได้ และภาษาไทยถือเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชที่ทรงได้ประดิษฐ์อักษรไทยให้คนไทยได้ใช้มาจนถึงปัจจุบัน
ในปัจจุบันโลกของเราได้มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมาก ทำให้มีความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมทั้งการสื่อสารวัยรุ่นในประเทศไทยยุคใหม่บางกลุ่มได้สร้างค่านิยมที่ผิดๆ มาใช้คือ การใช้ภาษาไทยที่ผิดจากคำเดิม จึงทำให้ภาษาไทยของเราเปลี่ยนแปลงไป เยาวชนยุคหลังๆ จึงใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง
วัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่มีการสื่อสารกันมากและมีรูปแบบการสื่อสารด้วยคำที่ทันสมัย มีความหมายเฉพาะสำหรับกลุ่มและช่วงวัย วัยรุ่นจึงขาดความคำนึงถึงความถูกต้องเหมาะสมของภาษาที่ใช้ให้เหมาะสมกับโอกาสและกาลเทศะ เช่น การพูดกับผู้ใหญ่ พูดในที่สาธารณะที่มิใช่เฉพาะกลุ่มของตน หรือการพูดติดต่อที่เป็นทางการ ควรใช้ถ้อยคำที่ไพเราะและใช้ภาษาที่ถูกต้องเหมาะสม จะช่วยให้มีพัฒนาการทางภาษาที่ดีในอนาคต
การใช้ภาษาไทยที่ผิดๆ ของวัยรุ่นเป็นสิ่งที่จะทำให้ภาษาไทยวิบัติลง ซึ่งจะเห็นได้จากที่วัยรุ่นใช้สื่อสารทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คำว่า ทามอะไรอยู่ (ทำอะไรอยู่) เปนอะไร (เป็นอะไร)เพราะคำเหล่านี้ทำให้พิมพ์ง่าย สื่อสารกันได้เร็ว แต่ถ้าคิดอีกแง่มุมหนึ่ง การที่ภาษาไทยหนึ่งคำสามารถเขียนได้หลายแบบ เพราะภาษาไทยมีพยัญชนะที่ออกเสียงเหมือนๆ กัน มีสระที่เสียงคล้ายๆ กัน จึงทำให้สามารถเขียนออกมาได้หลายแบบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาษาไทยสามารถดัดแปลง เปลี่ยนแปลงคำได้หลากหลาย โดยที่ความหมายเหมือนเดิม แต่ลักษณะการเขียนผิดออกไปจากเดิม ทำให้ความเปลี่ยนแปลงทางภาษาไทยที่มีความซับซ้อนและทำให้วัยรุ่นนิยมใช้ภาษาไทยที่มีความหมายละเอียดและกว้างจากความหมายเดิมมีมากขึ้น

👥 ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น
ปัญหาการใช้ภาษาไทยได้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานหลายสิบปี แต่ในยุคปัจจุบันนี้ปัญหายิ่งวิกฤติความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีปัจจัยหนุนนำที่สำคัญนั่นคือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว เราจึงพบการใช้ภาษาไทยแบบผิด ๆ  มากมายจนเกือบจะกลายเป็นความคุ้นชิน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นยิ่งน่าเป็นห่วงมากที่สุด เป็นกลุ่มที่นิยมใช้ภาษาที่มีวิวัฒนาการทางภาษาที่เฉพาะกลุ่ม ซึ่งเป็นภาษาที่เกือบจะไม่มีไวยากรณ์  ไม่ว่าจะจากการรับส่งข้อความสั้น (SMS) การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) การสนทนาออนไลน์ (MSN) หรือแม้แต่การแสดงความคิดเห็นในโลกอินเทอร์เน็ต
 การใช้ภาษาไทยที่เกิดจากอินเทอร์เน็ตนั้นเริ่มลุกลามมาจากโปรแกรมแชทรูมและเกมออนไลน์ ซึ่งดูคล้ายเป็นการสนทนากันธรรมดา แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสแล้วมิใช่เลย การสนทนาอันไม่มีขีดจำกัดของภาษาทำให้เกิดปัญหาขึ้นมากมาย ดังเช่นที่พบตามหน้าหนังสือพิมพ์ในปัจจุบัน  และในขณะเดียวกันก็สร้างปัญหาให้แก่วงการภาษาไทยด้วย นั่นคือการกร่อนคำ และการสร้างคำใหม่ให้มีความหมายแปลกไปจากเดิม หรืออย่างที่เรียกว่าภาษาเด็กแนวนั่นเองวัยรุ่น เป็นช่วงวัยที่มีการสื่อสารกันมากและมีรูปแบบการสื่อสารด้วยคำที่ทันสมัย มีความหมายเฉพาะสำหรับกลุ่มและช่วงวัย วัยรุ่นจึงขาดความคำนึงถึงความถูกต้องเหมาะสมของภาษาที่ใช้ให้เหมาะสม มีหลายสาเหตุที่ทำให้วัยรุ่นใช้ภาษาที่ผิดๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมาก ทำให้มีความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมทั้งการสื่อสาร วัยรุ่นในประเทศไทยยุคใหม่บางกลุ่มได้สร้างค่านิยมที่ผิดๆ มาใช้ คือ การใช้ภาษาไทยที่ผิดจากคำเดิม จึงทำให้ภาษาไทยของเราเปลี่ยนแปลงไป เยาวชนยุคหลัง ๆ จึงใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง สื่อมวลชนก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการใช้ ภาษาไทยแบบผิดๆของประชาชนเพราะสื่อมวลชนเป็นผู้ที่ให้ข้อมูล ข่าวสารกับประชาชนทุกวัน สื่อมวลชนต้องเป็นผู้นำที่ดีที่สุดของการใช้ภาษาและต้องให้ข้อคิดอยู่เสมอว่าภาษานั้นสะท้อนความเป็นตัวของเราเอง ถ้าใช้ภาษาดี ภาษาที่ถูกต้อง ภาษาที่นำสังคมไปในทางสร้างสรรค์สร้าง ความสามัคคี สร้างความรัก สร้างความภูมิใจในชาติจะทำให้ทุกคนเห็นคล้อยตาม แต่ถ้าหากว่าสื่อมวลชนนำภาษาที่ประหลาด ภาษาที่ไม่ถูกต้องเอามาเผยแพร่บ่อยๆ คนจะคิดว่าสิ่งที่สื่อมวลขนมาเผยแพร่นั้นถูกต้อง เป็นสิ่งที่ดี มันจะทำลายภาษาไทย โดยเฉพาะการใช้ภาษาในข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ต่างๆ เป็นต้น
ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งในการใช้ภาษาไทย ก็คือ ปัญหาการใช้ภาษาไทยของครูและนักเรียน  เกิดจาก ครูเนื่องจากครู คือ ผู้ประสาทวิชา เป็นผู้ให้ความรู้แก่ศิษย์ ดังนั้นความรู้ในด้านต่างๆ เด็กๆ จึงมักจะได้รับมาจากครูเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ครูบางคนนั้นมีความรู้แต่ไม่แตกฉาน  โดยเฉพาะวิชาภาษาไทยเป็นวิชาที่มีความละเอียดอ่อน และมีส่วนประกอบแยกย่อยอย่างละเอียดลออ เมื่อครูไม่เข้าใจภาษาไทยอย่างกระจ่าง จึงทำให้นักเรียนไม่เข้าใจตามไปด้วย จนพาน เกลียดภาษาไทยไปในที่สุด ซึ่งเป็นปัญหาที่ปรากฏให้เห็นอยู่มากมายในปัจจุบัน

📡รูปแบบการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น
การใช้ภาษาเป็นเรื่องของการสื่อสาร ซึ่งผู้ส่งสารจะต้องทำให้ผู้รับสารเข้าใจความหมาย ของตน ให้มากที่สุด แต่การสื่อสารที่มีรูปแบบแตกต่างกัน จะทำให้การใช้ภาษามีความแตกต่างกัน ไปด้วย เช่น การสื่อสารแบบเผชิญหน้าย่อมแตกต่างจากการสื่อสารแบบผ่านเครื่องมือการสื่อสาร  หรือการสื่อสารด้วย สื่อสิ่งพิมพ์ ย่อมมีความแตกต่างการสื่อสารด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีทั้งภาพ และเสียง ในปัจจุบันปัญหาที่พบเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย คือการใช้ภาษาในทาง  “วิบัติ” และมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ภาษาอยู่หลายประเภท เช่น
 รูปแบบการพูด เป็นประเภทของภาษาวิบัติที่ใช้เวลาพูดกัน ซึ่งบางครั้งก็ปรากฏขึ้นในการเขียน ด้วย แต่น้อยกว่ากลุ่มที่ใช้ในเวลาเขียน โดยการพูดมักจะพูดให้มีเสียงสั้นลง หรือยาวขึ้น หรือไม่ออกเสียงควบกล้ำเลย ประเภทนี้เรียกได้อีกอย่างว่ากลุ่มเพี้ยนเสียง
รูปแบบการเขียน รูปแบบของภาษาวิบัติประเภทนี้ โดยทั้งหมดจะเป็นคำพ้องเสียงที่นำมาใช้ผิดหลักของภาษา คนที่ใช้ภาษาวิบัติเวลาเขียนนั้นจะเขียนตามเสียงอ่าน เพราะไม่ต้องการอยู่ในกรอบ หรือต้องการทำอะไรที่คิดว่าใหม่ ไม่เลียนแบบของเก่า ได้แก่
                    ๑.  การเขียนตามเสียงพูด
          ๒.  การสร้างรูปการเขียนใหม่
          ๓.  รูปแบบของการเปลี่ยนแปลงเสียงอ่าน
          ๔.  กลุ่มที่เปลี่ยนแปลงความหมาย

🔔ลักษณะและตัวอย่าง
คำสะกดผิดได้ง่ายเป็นรูปแบบของคำที่มีการสะกดผิดซึ่งเกิดจากคำที่มีการผันอักษรและเสียงไม่ตรงกับรูปวรรณยุกต์             
           ➤  สนุ๊กเกอร์  (สนุกเกอร์)
 ➤  โน๊ต   (โน้ต)
ที่สะกดผิดเพื่อให้แปลกตา
 ➤  หน่องเตย (ใบเตย อาร์ สยาม)
 ➤  นู๋ (หนู)
 ➤  ชะมะ,ชิมิ (ใช่ไหม)
 ➤  ช่ะ (ใช่ปะ, ใช่เปล่า, ใช่หรือเปล่า ตามลำดับ)
 ➤  มว๊ากกกก (มาก)
 ➤  ป่าว , ป่ะ, ปล่าว (เปล่า)
 ➤  คัย,ไค,ครัย (ใคร)
 ➤  เตง,ตะเอง (ตัวเอง)
 ➤  เก๊า, เก๊าท์, (เขา)
 ➤  เทอ,เทอร์ (เธอ)
 ➤  ชั้ล , ช้าน (ฉัน)
 ➤  เกรีeu (เกรียน)
 ➤  uou (นอน)
 ➤  Inw (เทพ)
 ➤  ll"ll ""ll ll"ll (กาก)
คำที่สะกดผิดเพื่อแสดงอารมณ์
 ➤  เป็นอะไร เปงราย, เปนรัย, เปงรัย
 ➤  ทำไม ทามมาย, ทามมัย
 ➤  จังเลย จังรุย, จังเยย, จุงเบย
 ➤  บอกตรง ๆ บ่องตง
 ➤  นิดนึง นิสนึง, นิสนุง
 ➤  คือแบบ คีบับ, เคบับ
 ➤  น่ารำคาญ น่ามคาน
 ➤  น่ารักอะ น่าร๊อคอ้า
 ➤  จริง ๆ จีจี,จิงๆ
 ➤  สุด ๆ ฝุด ๆ
 ➤  ไม่รู้ มะรุ
 ➤  อะไรหรือ ไรเหรอ, ไรหรา, ไรเหลอ, ไรหรอ, อาไยหยอ
คำเลียนเสียง โดยส่วนใหญ่จะเพิ่มทัณฑฆาต หรือซ้ำตัวอักษร
 ➤  อ๊าย แอร๊ยย, อร๊ายยย, อั้ยยะ
 ➤  กรี๊ด กี๊สส
 ➤  โฮก โฮกกก
 ➤  โอ้ โอ้วส์
 ➤  มัน มันส์


·        👬 แนวทางการจัดการกับปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น
แนวทางในการจัดการกับปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น อาจจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยสอดส่องดูแลอย่างสม่ำเสมอ แต่ถึงอย่างไรการจัดการกับปัญหานี้ก็ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานรัฐเพียงอย่างเดียว สิ่งที่จะช่วยจัดการกับปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่นได้ง่ายที่สุด คือ
สถาบันครอบครัว พ่อ แม่ ผู้ปกครอง นับว่าเป็นบุคคลใกล้ตัวและมีบทบาทสำคัญที่สุดที่จะช่วยในการแก้ปัญหา โดยควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและวัยรุ่น ควรสอนให้เด็กเขียนหนังสือให้ถูกต้อง และปลูกฝังนิสัยรักการอ่านก็จะยิ่งช่วยให้เด็กคุ้นเคยกับการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องตั้งแต่เด็ก
สถาบันการศึกษา ทุกสถาบันมีการเรียนการสอนภาษาไทยอยู่แล้ว ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงอุดมศึกษา โดยสถาบันในทุกระดับนั้น ควรให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาไทยมาก นอกจากนี้อาจต้องต้องพิจารณาหลักสูตรโดยหันมาใช้การเรียนการสอนเดิมๆ ดูบ้าง ซึ่งจะมีวิชาเขียนไทย อ่านไทย ย่อความ หรือท่องอาขยาน เพื่อให้เด็กใช้ภาษาไทยได้ถูกต้องมากขึ้น ดังที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ก็เคยมีรับสั่งว่า การที่ให้เด็กได้ท่องอาขยาน เป็นการฝึกความจำของเด็ก ด้วยการให้ได้ท่องภาษาดีๆ การใช้ภาษาของเด็กก็จะได้รับการพัฒนาไปด้วย อย่างไรก็ตาม การที่จะฝึกฝนและสอนเด็กให้ใช้ภาษาไทยได้ถูกต้องนั้น ครูก็ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้หามาตรการในการสร้างมาตรฐานการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องของครูด้วยเช่นกัน เช่น แนวคิดในการจัดทำเกณฑ์มาตรฐานของครูโดยราชบัณฑิตยสถาน การจัดอบรมครูภาษาไทยทั่วประเทศทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน โดยสมาคมครูภาษาไทยฯ เป็นต้น
สื่อ เนื่องจากเด็กและเยาวชนอยู่กับสื่อแทบตลอดเวลา มากกว่าอยู่กับพ่อแม่ และสถาบันการศึกษาด้วยซ้ำ สื่อจึงควรมีจิตสำนึกและตระหนักว่าตนเองมีความสำคัญต่อสังคม มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมต่าง ๆ ของวัยรุ่น รวมทั้งการใช้ภาษา แม้ว่าสื่อมีความจำเป็นต้องใช้คำแปลกใหม่บ้างเพื่อเป็นสีสันของข่าว และดึงดูดผู้ชมผู้ฟัง แต่ก็ต้องไม่มากจนเกินไป ดังนั้น เมื่อจะสื่อสารสิ่งใดจึงควรมีวิจารณญาณ และใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมต่อไป
การที่จะฝึกฝนหรือสอนให้เด็กพูด อ่าน และเขียนภาษาไทยให้ถูกต้องนั้น คงจะง่ายขึ้นหากเราสามารถปลูกฝังให้พวกเขารู้สึกหวงแหนภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกของชาติ เพราะเรามีทั้งภาษาพูด และภาษาเขียนที่เป็นของเราเอง เพื่อที่วันข้างหน้าเขาจะเติบโตขึ้นเป็นเยาวชนไทยที่ใช้ภาษาไทยถูกต้อง มีบุคลิกภาพดี และสามารถอวดเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ
สำหรับครู อาจารย์ก็ต้องมีการสร้างแรงจูงใจให้กับเด็กนักเรียนในห้องเรียน เพราะพฤติกรรมและการออกแบบการจัดการเรียนรู้ของครูเอง จะมีอิทธิพลต่อแรงจูงใจของนักเรียน ครูจึงสามารถพัฒนาแรงจูงใจของนักเรียนได้โดยสนับสนุนให้นักเรียนกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ และสร้างความเข้าใจว่า ความสำเร็จนั้นเกิดจากความพยายาม ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเรียนสามารถควบคุมได้ และในการจัดกระบวนการเรียนรู้ ครูต้องพยายามเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เรียนกับชีวิต กำหนดหรือมอบหมายงานที่เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของนักเรียน เพื่อให้พวกเขาเกิดความมั่นใจ และใช้การเสริมแรงทางบวกเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจให้ได้มากที่สุด
จะเห็นได้ว่า ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่นไทยมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะภาษาไทยไม่ใช่ไว้เพียงแค่การติดต่อสื่อสารเท่านั้น แต่ภาษาไทยของเราเป็นเอกลักษณ์ เป็นวัฒนธรรม ที่สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลานานหลายร้อยปี ภาษาไทยจึงมีความสำคัญกับวัยรุ่นไทยที่จะเป็นอนาคตของประเทศที่จะเป็นตัวช่วยสืบสาน รักษาภาษาไทย ที่บรรพบุรุษของเราได้สร้างไว้ให้คงอยู่กับชาติบ้านเมือง และให้ภาษาไทยอยู่คู่กับชาติไทยไปตลอด









บรรณานุกรม

chatchai nokdee. (2557). ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น. [Online]. เข้าถึงได้จาก :     https://www.thaihealth.or.th/Content/25193 [2563 มีนาคม 20]
ฉัตรชัย ใจแสน. (2558). ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่นไทย. [Online]. เข้าถึงได้จาก : http://blog.mcp.ac.th/?p=23573 [2563 มีนาคม 20]
ผัสชาณิกาญจน์  หาญณรงค์. (2556). ภาษากับวัยรุ่น. [Online]. เข้าถึงได้จาก : https://www.dek-d.com/board/view/3054190/ [2563 มีนาคม 20]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น